หลังจากที่เราได้นมัสการพระธาตุอินทร์แขวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว (ในตอนที่ 1) ก็ได้เวลาเดินทางกลับซึ่งงานนี้พวกเราทั้งหมดอาศัยรถ 6 ล้อลงไปทีเดียว ก็ใช้เวลาในการลงเขาไม่นาน ในขณะที่กำลังเดินไปยังรถบรรทุกนั้น ก็เห็นพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ทั้งพม่าและชาวไทยต่างเดินสวนเราเพื่อขึ้นไปสักการะบูชาพระธาตุอินทร์แขวนเช่นกัน มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสจากทั่วทุกสารทิศมาแสวงบุญ ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
เราลงมาถึงตีนเขาก็ประมาณ 9 โมงเช้า (ตามเวลาพม่า) รสบัสมารอถึงที่ตีนเขา ทั้งนี้เพื่อเตรียมพาพวกเราไปแสวงบุญกันต่อ พวกเราก็ยังได้มีโอกาสไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีก 2 แห่งนั่นก็คือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือพระตาหวาน เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวกว่า 70 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดและมีความงดงามที่สุดของประเทศพม่า ทั้งพระพักตร์และขนตาที่งดงาม ดวงตาของท่านเป็นแก้ว สั่งผลิตมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะรวมไปถึงพระจีวรที่มีความพริ้วไหวสมจริงและเมื่อเดินมายังปลายสุดพระบาทของพระนอนองค์นี้ ตรงที่พระบาทมีภาพวาดเป็นมิ่งมงคลสูงสุด เพราะประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักร ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาทและล้อมด้วย รูปมงคล 108 ประการ ด้านหน้าวัดก็จะมีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย (ณ ตรงนี้ผมก็ได้ซื้อแป้งทานาคามาใช้ด้วย)
เราใช้เวลาที่พระตาหวานอยู่สักพัก ก็ต้องรีบเดินทางต่อเพื่อให้ไปทันพิธีเทินพระธาตุ ที่ เจดีย์กาบาเอ หรือ Kaba Aye Pagoda ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทั้งพระธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคลานะ นอกจากนี้ยังมีพระมหามัยมุนีองค์ จำลองมาจากมัณฑะเลย์ ประดิษฐานไว้ให้กราบไหว้อีก สำหรับพิธีเทินพระธาตุต้องเรียกว่าเป็นพิธีการทางพุทธศาสนาที่สำคัญมาก ซึ่งชาวพม่าส่วนใหญ่ยังไม่เคยมีโอกาสได้เทินพระธาตุเลยด้วยซ้ำ แต่พวกเราได้ทำเรื่องไปนานเป็นเดือน จึงสามารถที่จะได้ทำพิธีนี้ (ปกติพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทั้งพระธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคลานะ จะถูกเก็บไว้ในตู้เซฟ แต่คราวนี้สื่อมวลชนชาวไทยอย่างพวกเราก็ได้มีโอกาสได้เห็นกันอย่างใกล้ชิด) พระธาตุที่ประดิษฐาน ณ ที่เจดีย์กาบาเอ นี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นพระธาตุของจริง และน้อยคนนักที่จะได้ทำพิธีเทินพระธาตุ เรียกได้ว่าอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
เมื่อเสร็จจากการแสวงบุญเสร็จแล้ว เรายังเหลือเวลาอีกนิดหน่อยเพื่อไปดูตลาดนัดไอทีของประเทศพม่า ซึ่งต้องบอกว่ายังเป็นตึกแถวเรียงตัวทอดยาว มีสินค้าไอทีทั้งโทรศัพท์มือถือ, โน้ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าวางจำหน่ายกันมากมายเหมือนกัน - (ปล. ผมเพิ่งทราบจากไกด์สาวพม่าว่า "ซิม" มือถือที่นี้ราคาประมาณ 10,000 บาท ฟังไม่ผิดครับ "หนึ่งหมื่นบาท" แพงเอาการเลยทีเดียว)
เมื่อได้เวลาอันเป็นสมควรเราก็เดินทางกลับที่พัก โรงแรม CHATRIUM YANGON HOTEL เพื่อทำกิจกรรมตอนกลางคืนต่อไป -- เตรียมพบกับตอนจบ เร็วๆ นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น